วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

[Breaking] iPhone4 hands on (with comments)!!!




















(ภาพ iPhone4 จาก Reuters)

เกริ่น...วันนี้ได้มีโอกาสไปโต๋เต๋ที่ St.Louis Galleria ซึ่งที่นั่นก็มีศูนย์แอปเปิ้ลด้วยพอดี พอเห็นเข้าก็นึกขึ้นได้ "มันต้องมี iPhone4 ให้เล่นเป็นแน่แท้!" ว่าแล้วก็ไม่ลังเล เดินฝ่าฝูงชนที่กำลังเดินขวักไขว่ และเหล่านักบวชเสื้อฟ้าทั้งหลาย มุ่งตรงไปยังโต๊ะกลางร้านที่มี iPhone4 ให้ลองกว่า 10 เครื่อง พร้อมชื่อเครื่องนำหน้าด้วยคำว่า Favourite 1,2,3,... อ้อร้อจริง ๆ หลังจากได้เล่นไม่นานนักก็พอสรุปประเด็นได้ดังนี้จ้า
  1. หน้าตาเครื่องดีมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆ บางลงและเล็กลงทำให้จับถนัดมือขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ(ซึ่งมันดีกับคนเอเชียมาก) ทำให้ถือได้มั่นคงและใช้งานได้สะดวกขึ้นอย่างแรง
  2. น้ำหนักเบาลงจนรู้สึกได้ ถือไปไหนคล่องตัวขึ้น
  3. กระจกหน้า-หลัง ให้สัมผัสที่พอใช้ได้แต่ยังขาดความ "นวล" ที่ต้องเพิ่มอีกหน่อย แต่จุดที่ดีก็คือ มันไม่แววมาก และไม่ด้านมาก ผ่านมือมาเยอะแต่ยังไม่เป็นรอยขีดข่วนให้เห็นชัด ๆ เลย(ตามที่เขาโฆษณาว่ากระจกดี) แถมดึงดูดรอยนิ้วมือยากกว่าตัวเก่าอีกด้วยจ้า แต่เสียดายที่ไม่น่าแตกง่ายเลย(ตามข่าว)
  4. ปุ่มต่าง ๆ ข้างเครื่อง ต้องยอมรับว่าแข็งไปนิด แต่ก็สมเหตุสมผลเพราะเป็นปุ่มข้าง แต่ปุ่มปิดเสียงนี่ทำไมไม่ให้มันเลื่อนบน-ล่าง แทนที่จะเป็น ซ้าย-ขวา วะเนี่ยยย
  5. จุดที่ไม่ชอบเลยสำหรับตัวเครื่องคือ มุมของเครื่องระหว่างเสาอากาศที่เป็นโลหะ กับจอส่วนกระจก มันไม่ได้ต่อกันเป็นมุมสนิท เกิดเป็นช่องว่างให้เสาอากาศกับกระจกหน้า-หลัง ทำให้สากมือเวลาถือ (ปัญหานี้แก้ได้ด้วย Bumper หรือ Case)
  6. หน้าจอทัชสกรีนยังคงตอบสนองนิ้วที่จิ้ม ๆ เลื่อน ๆ ไปบนจอได้ดี แต่โดนกระจกที่ขาดความ"นวล" ทำให้ลากนิ้วไม่ลื่นเท่าที่ควร (อาจแก้ด้วยฟีล์มด้าน)
  7. หน้าจอที่มี Resolution เพิ่มขึ้นนั้น ทำให้ดูจอสบายตาขึ้นนิดหน่อย บวกกับการมี wallpaper เสียที ทำให้หน้า App ไม่น่าเบื่ออย่างแต่ก่อน
  8. การประมวลผล ข้อนี้ถือว่ายังไม่มากถึงขั้นทำให้ตะลึง เพราะรุ่นก่อน ๆ ก็แรงแล้ว แถมแรงพ้น Threshold ของผู้เขียนแล้ว รุ่นนี้ถึงจะเร็วกว่านี้ก็ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
  9. กล้องกับเฟซไทม์ไม่ได้ลองจ้า เพราะไม่รู้จะลองกับใคร
  10. การฟังเพลง อันนี้ไม่ได้ลองเหมือนกัน แต่หน้าเพลงเหมือนเดิม คุณภาพเสียงไม่ทราบจริง ๆ (จะให้ลองกับหูแถมก็นะ...)
  11. ซาฟารีทำงานได้ปรกติ อ่านไทยได้ไม่มีติดหล่มจ๊ะ
  12. ข้อสุดท้าย ... Death Grip อันนี้ซีเรียสมาก ใครที่คิดว่าสื่อหรือองค์กรต่าง ๆ ออกมาโจมตีเรื่องการถือเครื่องโดนรอยต่อเสาสัญญาณแล้วทำให้สัญญาณหายนั้น ขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ เพราะหลังจากลองแกล้งถือท่า death grip ตามในข่าวแล้วนั้น สัญญาณจากเต็ม มันหายหมดหลอดเลยจ้า! อันนี้แอปเปิ้ลคิดถูกแล้วที่ต้องแจกเคสแบบนั้น เพราะปัญหานี้มันเกิดขึ้นจริง และมันกระทบต่อการใช้งานจริง ๆ (ยิ่งตัวผู้เขียนถนัดซ้ายเสียด้วย) นี่จึงเป็นข้อเสียที่ใหญ่หลวงที่สุดของ iPhone4 จะถือเป็น fail ก็ได้นะ
สรุป...iPhone4 ได้ออกแบบตัวเครื่องและวัสดุได้เบาบางและดูดีกว่าตัวเก่ามาก ทำเอาตัวเก่าเป็นพลเมืองชั้นสองเลย อีกทั้งประสิทธิภาพยังอัพเกรดแล้วยังสมทบด้วยเฟิร์มแวร์ใหม่อีกทำให้มือถือตัวนี้เป็นที่น่าจับจองเป็นเจ้าของเสียยิ่งกะไร แต่ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ การออกแบบมุมเครื่อง และ death grip ยังเป็นปัญหาจุกจิกที่ทำให้รำคาญได้ไม่น้อย หากในอนาคตอันใกล้(อีกไม่กี่เดือน) ทางศูนย์ไทยทั้ง True และ dtac นำ iPhone4 มาขายแล้วไม่แถมเคสตามนโยบายของที่นี่ละก็ คงต้องช่วยกันบอยคอตแล้วกดดันให้เค้าแถมให้ได้ ไม่งั้นก็ฟ้อง สคบ. แม่มเลย เพราะปัญหา death grip มันของจริง!

ทิ้งท้าย ผู้เขียนชักอยากเอาน้อง milestone สุดที่รักไปขายซะแล้วซิ ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆ (เค้าล่อเล่นนะ ยังไงก็รักหุ่นเขียวจ๊ะ)

จบ

ปล.ถ้ามีโอกาส จะไปลอง Samsung Vibrant แล้วมาเล่าให้ฟังจ้า อยากรู้อิทธิฤทธิ์เกาหลีเหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น